แชร์เคล็ดลับการจัดไฟในบ้านให้เข้ากับแต่ละห้อง
- Decco develop
- 13 มี.ค.
- ยาว 1 นาที

แสงไฟเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อบรรยากาศและการใช้งานในบ้าน นอกจากให้ความสว่าง ยังช่วยสร้างอารมณ์ที่แตกต่างในแต่ละห้อง การจัดไฟในบ้านให้เข้ากับแต่ละห้องที่เหมาะสมจึงสำคัญทั้งด้านความสวยงามและประสิทธิภาพในการใช้งานช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและลงตัวในการอยู่อาศัย
การจัดไฟในบ้านสำหรับห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่สำคัญที่ใช้สำหรับพักผ่อนและทำกิจกรรมร่วมกันภายในบ้าน การจัดไฟที่เหมาะสมจึงต้องช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลายและสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับกิจกรรมที่แตกต่าง
แนวทางการจัดไฟในห้องนั่งเล่น
ไฟหลัก ใช้โคมไฟเพดานหรือดาวน์ไลท์แบบ Warm White (2,700 - 3,000K) เพื่อให้แสงนุ่มนวลและอบอุ่นและสามารถใช้โคมไฟระย้าหรือโคมไฟแขวนเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับห้อง
ไฟเสริม ใช้ไฟซ่อนบริเวณฝ้าเพดานหรือชั้นวางของเพื่อเพิ่มมิติและบรรยากาศและติดไฟส่องผนังหรือภาพตกแต่ง เพื่อเน้นจุดเด่นของห้อง
ไฟสำหรับการใช้งานเฉพาะจุด ใช้โคมไฟตั้งพื้นหรือโคมไฟตั้งโต๊ะข้างโซฟาเพื่อให้แสงเฉพาะจุด เช่น อ่านหนังสือ ควรเลือกโคมไฟที่สามารถปรับความสว่างได้เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งาน
ไฟปรับบรรยากาศ ใช้ไฟที่สามารถปรับระดับความสว่างได้เพื่อสร้างบรรยากาศที่หลากหลายและติดตั้งไฟ LED Strip บริเวณชั้นวางทีวีหรือผนังเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับห้อง
เลือกหลอดไฟที่ให้ค่าความถูกต้องของสี (CRI) สูง เพื่อให้สีของเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งดูเป็นธรรมชาติ ใช้การผสมผสานระหว่างไฟหลัก ไฟเสริมและไฟเฉพาะจุด เพื่อสร้างมิติและความลึกให้กับห้อง
การจัดไฟในบ้านสำหรับห้องนอน

ห้องนอนเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน การจัดแสงไฟที่เหมาะสมจึงต้องช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบ ผ่อนคลายและส่งเสริมการนอนหลับที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ควรมีแสงไฟที่เพียงพอสำหรับกิจกรรมอื่นจะช่วยให้พื้นที่ดูอบอุ่น สงบ และส่งเสริมการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
แนวทางการจัดไฟในห้องนอน
ไฟหลัก ใช้ไฟเพดานหรือดาวน์ไลท์ที่ให้แสงนุ่มนวล เช่น หลอดไฟ Warm White (2,700 - 3,000K) หลีกเลี่ยงไฟที่สว่างจ้าจนเกินไปเพราะอาจรบกวนบรรยากาศการพักผ่อน
ไฟเฉพาะจุด ใช้โคมไฟหัวเตียงหรือโคมไฟติดผนังเพื่อให้แสงสว่างเฉพาะจุด เหมาะสำหรับการอ่านหนังสือ เลือกโคมไฟที่มีฟังก์ชันปรับความสว่างได้เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งาน
ไฟตกแต่งและปรับบรรยากาศ ใช้ไฟซ่อนบริเวณหัวเตียงหรือใต้เตียง เพื่อเพิ่มมิติและความอบอุ่นให้กับห้องและใช้ไฟ LED Strip หรือโคมไฟตั้งโต๊ะที่ให้แสงนุ่มๆ สามารถช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายก่อนเข้านอน
ไฟสำหรับการแต่งตัว หากมีโต๊ะเครื่องแป้งหรือมุมแต่งตัว ควรติดไฟบริเวณกระจกเพื่อให้แสงสว่างเพียงพอใช้ไฟสีขาวนวลเพื่อให้สีของเสื้อผ้าและเครื่องสำอางดูเป็นธรรมชาติ
เคล็ดลับการจัดไฟในห้องนอนเพิ่มเติม
ใช้สวิตช์ไฟหรี่แสงเพื่อปรับระดับแสงให้เหมาะสมกับช่วงเวลาต่างๆ หลีกเลี่ยงการใช้แสงสีขาวโทนเย็นในช่วงเวลากลางคืนเพราะอาจรบกวนการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินและส่งผลต่อการนอนหากต้องการบรรยากาศที่ผ่อนคลายยิ่งขึ้น สามารถใช้โคมไฟที่ให้แสงสีเหลืองอำพันหรือแสงไฟจากเทียน LED
การจัดไฟในบ้านสำหรับห้องครัว

ห้องครัวต้องการแสงสว่างที่ชัดเจนเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำอาหาร ควรจัดไฟให้เหมาะสมทั้งสำหรับการใช้งานและบรรยากาศการรับประทานอาหาร แสงไฟที่ดีช่วยให้ทำอาหารสะดวกขึ้น พร้อมสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าใช้งาน
แนวทางการจัดไฟในห้องครัว
ไฟหลัก ใช้โคมไฟเพดานหรือดาวน์ไลท์ที่ให้แสงกระจายทั่วถึงเลือกหลอดไฟ Cool White หรือ Daylight (4,000 - 6,500K) เพื่อความสว่างชัดเจนและช่วยให้มองเห็นสีของอาหารได้แม่นยำ
ไฟเฉพาะจุด ติดไฟใต้ตู้แขวนสำหรับเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร ไฟเฉพาะจุดเหนือเตาแก๊สหรือเตาอบและโคมไฟติดผนังบริเวณอ่างล้างจานเพื่อเพิ่มความสว่างและความสะดวกในการใช้งาน
ไฟเสริมสร้างบรรยากาศ ใช้ไฟซ่อนใต้ตู้หรือชั้นวางของเพื่อเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ติดไฟบริเวณโต๊ะรับประทานอาหาร เช่น โคมไฟแขวน หรือไฟระย้า เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง
ไฟสำหรับพื้นที่รับประทานอาหาร หากพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ในครัว ควรใช้ไฟ Warm White (2,700 - 3,000K) เพื่อบรรยากาศผ่อนคลายติดโคมไฟแขวนสูง 70-90 ซม. เหนือโต๊ะเพื่อแสงที่เหมาะสมต่อสายตา
เคล็ดลับการจัดไฟในห้องครัวเพิ่มเติม
เลือกไฟ LED เพื่อความสว่าง ประหยัดพลังงานและอายุการใช้งานยาวนาน ใช้หลอดไฟ CRI สูงเพื่อให้สีอาหารดูเป็นธรรมชาติ ติดตั้งไฟหลายระดับเพื่อปรับเปลี่ยนตามความต้องการ เช่น ไฟใต้ตู้สำหรับแสงกลางคืน
การจัดไฟในบ้านสำหรับห้องน้ำ

ห้องน้ำต้องการแสงที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยและการใช้งานที่สะดวก ควรมีทั้งไฟหลักเพื่อการมองเห็นชัดเจนและไฟเสริมเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
แนวทางการจัดไฟในห้องน้ำ
ไฟหลัก ใช้โคมไฟเพดานหรือดาวน์ไลท์เลือกหลอดไฟ Cool White หรือ Daylight (4,000 - 5,500K) เพื่อแสงชัดเจนหลีกเลี่ยงไฟที่สว่างจ้าหรือมืดเกินไปเพื่อการมองเห็นที่เหมาะสม
ไฟเฉพาะจุด ติดไฟรอบกระจกบริเวณอ่างล้างหน้าเพื่อช่วยให้แต่งหน้าและโกนหนวดได้ชัดเจนใช้โคมไฟติดผนังด้านข้างหรือเหนือกระจกเพื่อลดเงาสะท้อนบนใบหน้า
ไฟเสริมสร้างบรรยากาศ ใช้ไฟซ่อนใต้เคาน์เตอร์หรือฝังผนังเพื่อเพิ่มความหรูหราหากต้องการบรรยากาศสปาให้ใช้ไฟ Warm White บริเวณอ่างอาบน้ำหรือฝักบัว
ไฟเพื่อความปลอดภัย ใช้หลอดไฟกันน้ำ (IP65 ขึ้นไป) ในพื้นที่เปียก เช่น ห้องอาบน้ำและเพดานใกล้ฝักบัวติดไฟกลางคืนแบบแสงสลัวเพื่อลดความรบกวนสายตาหากต้องใช้ห้องน้ำตอนกลางคืน
ใช้ไฟปรับระดับได้เพื่อเหมาะกับการใช้งานและพักผ่อน เลือกโคมไฟกันความชื้นสำหรับพื้นที่เปียกและจัดตำแหน่งไฟให้แสงส่องทั่วถึงลดเงาสะท้อน
การจัดไฟในบ้านสำหรับห้องทำงาน

ห้องทำงานต้องการแสงสว่างที่ช่วยเพิ่มสมาธิและลดความเมื่อยล้าของสายตาควรเลือกแสงที่เหมาะสมกับลักษณะงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดการจัดไฟที่เหมาะสมในห้องทำงานช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเมื่อยล้าของสายตาและสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการทำงาน
แนวทางการจัดไฟในห้องทำงาน
ไฟหลัก ใช้ไฟเพดานหรือดาวน์ไลท์ที่ให้แสงสว่างทั่วถึงเลือกหลอดไฟ Cool White หรือ Daylight (4,000 - 6,500K) เพื่อช่วยให้มีสมาธิและลดอาการง่วงหลีกเลี่ยงไฟที่มืดเกินไป
ไฟเฉพาะจุด ใช้โคมไฟตั้งโต๊ะที่ให้แสงตรงจุดและควรเลือกแบบที่สามารถปรับระดับความสว่างและมุมแสงได้ติดตั้งไฟบริเวณชั้นหนังสือหรือพื้นที่ทำงานเฉพาะจุดเพื่อให้แสงเพียงพอ
ไฟเสริมสร้างบรรยากาศ ใช้ไฟซ่อนหรือไฟตกแต่งเพิ่มมิติให้ห้อง เช่น ไฟส่องผนังหรือไฟ LED Strip บริเวณโต๊ะทำงานหลีกเลี่ยงแสงที่รบกวนสายตาหรือสะท้อนกับหน้าจอคอมพิวเตอร์
เคล็ดลับการจัดไฟในห้องทำงาน เพิ่มเติม
ใช้ไฟที่มีค่าความถูกต้องของสี (CRI) สูง เพื่อให้สีของเอกสารและจอภาพชัดเจนวางไฟในตำแหน่งที่ลดเงาบนพื้นที่ทำงานเพื่อลดอาการเมื่อยล้าของสายตาใช้ไฟที่สามารถปรับระดับได้เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งานทั้งกลางวันและกลางคืน
สรุป
การจัดแสงไฟให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ภายในบ้านเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมบรรยากาศและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานของแต่ละห้อง การเลือกประเภทของแสงไฟ ค่าความสว่างและตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสมจะช่วยให้บ้านของคุณมีความสวยงามและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
Comments